เมื่อพูดถึงถึงระบบเครื่องเสียงกลางแจ้ง เชื่อว่าหลายๆคน คงนึกภาพเครื่องเสียงขนาดใหญ่ที่มี Mixer , Crossover เครื่องขยายเสียงตัวใหญ่ๆ สายระโยงระยาง เต็มไปหมด การจัดชุดและควบคุมก็ต้องใช้พวกมืออาชีพ แต่บางครั้งเราต้องการเครื่องกลางแจ้งที่ใช้งานได้ทันที ไม่ต้องมีขึ้นตอนที่ยุ่งยาก และเราจะทำอย่างไร? ปัจจุบัน จึงได้มีการพัฒนา ตู้ลำโพง ที่บรรจุเครื่องขยายเสียงอยู่ภายในตัวรวมไปถึงไมค์ลอยและแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จไฟและนำไปใช้นอกสถานที่ ที่ไม่มีไฟฟ้าก็ยังสามารถใช้งาน ได้ และได้รับการตอบสนองจากผู้ใช้งานที่ไม่ต้องการความยุ่งยาก ใช้งานแค่ครั้งคราว เช่น งาน อีเว้น ขนาดเล็ก หรืองานประชาสัมพันธ์ ที่ต้องมีการเปลี่ยนสถานที่ไปในจุดต่าง , การจัดงานบันทึกในกลุ่มคน ขนาดเล็ก ถึงกลาง ,หรือ งานภายในโรงเรียน เพราะการใช้งานเน้นใช้งานง่าย คนไม่มีความรู้ก็สามารถใช้งานได้ทันที โดยในปัจจุบัน ได้มีสินค้าเหล่านี้ออกมามากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการ เราเลือกอุปกรณ์ เหล่านี้ ว่า ตู้ลำโพงอเนกประสงค์ หรือ ตู้ลำโพงล้อลาก (ในกรณีตู้ขนาดใหญ่) ดังนั้น ปัจจัยที่จะช่วยให้เราตัดสินใจในการเลือกซื้อ มีอะไรบ้าง มาดูกันครับ

ปัจจัยในการเลือกซื้อตู้ลำโพงล้อลาก

1. ความดังที่เราต้องการ เราดูจากอะไร เราอาจจะดูจากขนาดพื้นที่ที่เราต้องการให้เสียงครอบคลุมได้อย่างทั่วถึง หรือ ปริมาณ คนที่เราต้องการให้ได้ยิน
2. กำลังวัตต์ของขยาย เมื่อเราได้ข้อมูลจากข้อที่ 1 แล้ว เราก็สามารถจะเลือกได้ว่า เราควรใช้ตู้ลำโพงที่มีขยายเสียงกำลังขยายกี่วัตต์ เพราะกำลังวัตต์ยิ่งมาก ก็จะทำให้เสียงดังได้ตามที่เราต้องการ
3. ขนาดดอกลำโพง เมื่อเราได้กำลังวัตต์ของเครื่องขยายเสียงในตู้แล้ว เราก็ต้องเลือกขนาดของลำโพงให้เหมาะสม บางครั้งเราอาจพบว่า ตู้ที่มีดอกลำโพงขนาดไม่เท่ากัน แต่กับมีกำลังขยายเสียงเท่ากัน ทั้งนี้ ขนาดลำโพงจะส่งผลต่อความถี่เสียงที่เราต้องการ เช่น ดอกลำโพง 12 นิ้ว กับ ดอกลำโพง 15 นิ้ว จะให้เสียงที่ต่างกัน โดยดอก 12 นิ้ว ให้เสียงกลางที่ชัดเจนกว่า จึงเหมาะสำหรับงานที่เน้นการพูดเป็นหลัก ส่วนดอกลำโพง 15 นิ้วมีเสียงที่ทุ้มมากกว่า ให้เสียงเบสที่ดีกว่า จึงเหมาะกับการเปิดเสียงเพลง หรือ งานร้องมากกว่าเป็นต้น
4. ความถี่ของไมค์ลอย ปัจจุบันตู้แบบนี้ จะมีไมค์ลอยแถมมาให้ โดยความถี่ที่ใช้กันจะมี 2 ย่านความถี่ คือ ย่าน VHF และ ย่าน UHF ทั้งนี้ จะไม่ขออธิบาย คุณสมบัติของ ทั้ง 2 ชนิด แต่สรุปคร่าวๆ คือ VHF ความถี่ต่ำกว่า สัญญาณจะผ่านสิ่งกีดขวางได้ไม่ดีเท่าความถี่ สูง (UHF) ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการใช้งาน เพราะความถี่ย่าน UHF ปัจจุบันมีความถี่ที่ทาง กสทช อนุญาต ให้ใช้งานได้ไม่มากจึงมีข้อจำกัดเรื่องการใช้งานพอสมควร เช่น ความถี่ซ้ำกันมาก , แบบตู้มีให้เลือกน้อย หรือ การซื้อต้องระมัดระวังเรื่องคลื่นผิดกฎหมายเป็นต้น
5. ระยะเวลาการใช้งาน แบตเตอรี่ คงปฎิเสธไม่ได้ว่า ตู้ลำโพงล้อลากแบบนี้ ส่วนใหญ่การใช้งานมักจะใช้งานนอกสถานที่ ที่ไม่สะดวกในการใช้ไฟฟ้า 220 โวลท์ แบตเตอรี่จึงเป็นอีกปัจจัยในการเลือกซื้อตู้ลำโพงล้อลาก หรือตู้ลำโพงอเนกประสงค์ ปัจจุบันแบตเตอรี่ที่บรรจุอยู่ใน ตู้ลำโพงล้อลาก มีด้วยกัน 2 ชนิด คือ แบบ นิเกิล กับ แบบ ลิเธียม ซึ่งแบบนิเกล มีมาก่อน คุณสมบัติ ให้กำลังไฟที่ดีกว่า เพราะได้กระแสที่สูงกว่า แต่หากเราต้องการให้อยู่ได้นาน จำเป็นต้องใช้ขนาดที่ใหญ่ ซึ่งผลที่ตามมาคือ น้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น และ ระยะเวลาในการชาร์จไฟก็นานขึ้นไปด้วย ส่วนแบตเตอรี่แบบลิเธียม เป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับการใช้งานไม่หนักมาก เพราะ แบตเตอรี่แบบลิเธียมสามารถใช้งานได้นานกว่า และมีน้ำหนักน้อยกว่ามาก แต่ เนื่องจากกระแสที่จ่ายให้กับวงจรน้อยกว่า ทำให้ กำลังเสียงที่ออกมาจะมีเสียงเบสน้อยกว่านั่นเอง

     และนี่คือปัจจัยทั้ง 5 อย่างที่เราควรสนใจในการเลือกซื้อ ตู้ลำโพงล้อลาก แต่สุดท้าย ปัจจัยที่สำคัญสุด คงหนีไม่พ้น งบประมาณ เพราะ ราคาดูเป็นอีก 1 ปัจจัยที่เราใช้เลือก แต่บางครั้ง ของแพงก็อาจจะไม่เหมาะกับการใช้งานของเรา และ ของที่มีราคาแพงไม่ใช่ว่าจะดีที่สุดเสมอไปนะครับ สำคัญเราต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานของเรามากที่สุดครับ